กล้องดิจิตอลโครตแพงแห่งปี

Marley And Me Marley And Me

เทคนิคการถ่ายวิดิโอจากมืออาชีพ

Crank:High Voltage Crank:High Voltage

LG GD 910 นาฬิกามือถือ ทำไมมันถึงแพง มาดูกันดีกว่า

WATCHMEN - The Movie WATCHMEN - The Movie

Bedtime Stories

Bedtime Stories Bedtime Stories

ข่าวลือ : มีคู่มือ Nokia X10 หลุดออกมา

Posted by MasterM on วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 , under | ความคิดเห็น (0)



เว็บบล็อกของผู้ใช้ในเยอรมันเผยวีดีโอลับ คู่มือของสมาร์ทโฟน Nokia X10 ระบุข้อมูลตัวเครื่องไว้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่สามารถรับรองได้ว่าจะเป็นของจริงหรือเป็นเพียงข่าวลือ ดังนั้นจึงขอให้ติดตามชมกันเอาเอง ว่าจะมีข่าวของ Nokia X10 ตามออกมาทีหลังหรือไม่ สำหรับภาพตัวเครื่อง Nokia X10 ที่ปรากฎอยู่บนคู่มือนั้น เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส พร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY สำหรับข้อมูลตัวเครื่องนั้น โดยรวมมีดังนี้

  • เครือข่าย 3G - HSPA
  • จอแสดงผล AMOLED ระบบสัมผัส Capacitive กว้าง 3.2 นิ้ว
    - หมุนภาพอัตโนมัติ (Auto Rotation)
    - ป้องกันรอยขีดข่วน (Scratch resistant)
    - เซนเซอร์จับแสง ปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light sensor)
    - Proximity sensor : ตรวจจับระยะห่างระหว่างตัวเครื่องกับใบหน้า เพื่อปิดการใช้งานจอแสดงผลเวลาสนทนา
  • ระบบปฏิบัติการ Symbian ^3
  • หน่วยประมวลผล ARM Cortex A8 mit - 600 MHz
  • หน่วยความจำ RAM 256 MB
  • พื้นที่เก็บข้อมูล 16 GB หรือ 32 GB
  • กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
  • กล้องด้านหน้า รองรับวีดีโอคอลล์
  • การเชื่อมต่อ Wi-Fi
  • ระบบนำทาง GPS สนับสนุน A-GPS

Nokia X10 - โนเกีย



ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01688.html

ตัวอย่าง COP

Posted by ^_^Miu on วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 , under | ความคิดเห็น (0)



ตัวอย่าง COP นำมาเป็นตัวอย่าง

ขุมทรัพย์ความรู้




ขุมทรัพย์ความรู้ของก Kratip Team


หน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม Kratip Team




หน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม
บทความโน๊ตบุ๊ค -นางสาวปาริชาติ แสงปาก 237
บทความกล้องวีดีโอ -นายอนุพงศ์ ราชธานี 095
บทความกล้อง DSLR -นายพงศธร พัวภากร 099
บทความ MP 3 -นายอัฐพล ซิ้มเจริญวัฒนา 091
บทความโทรศัพท์ -นายชาตวิทย์ จันทวงษ์ 100
บทความสแกนเนอร์ -นายสัมพันธ์ ปราณีมาโพธ 118
บทความซอฟแวร์ - นางสาวนันทนา วิลัยหก 249
บทความ PSP -นายเชษฐา สาสะกุล 126
ข่าวสารไอที -นางสาวณัฐวดี สุอังคะ 092
ตกแต่ง -นายพรพรต พงษ์ภักดี 139
-นางสาวพิมพ์ชนก ญาสนธิ 094
ดูแลระบบ -นางสาวศิริรัตน์ บุญสำราญ 003
-นางสาวมาลินี สวัสดี 068

วิธีการเลือกซื้อ MP3




วิธีการเลือกซื้อ MP3




เครื่องเล่นเอ็มพีสามกำลังมาแรงในช่วงนี้ ดังจะเห็นได้ว่าตามห้างไอทีต่างๆ จะมีวางขายกันเกลื่อนกลาดมากมาย ทั้งที่เป็นของมียี่ห้อ และของโนเมนราคาถูกทั้งหลาย ด้วยจำนวนที่มากและหลากหลายขนาดนี้ อาจทำให้ผู้ซื้อหลายรายกังวลใจเป็นอย่างยิ่งในการเลือกซื้อหาเครื่องเล่น เอ็มพีสามมาครอบครองสักเครื่องหนึ่ง?
วันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องของการเลือกซื้อเครื่องเล่นเอ็มพีสาม โดยเน้นไปที่เอ็มพีสามราคาประหยัดที่มีให้เลือกกันมากมายในขณะนี้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ควรนำไปพิจารณาก่อนการเลือกซื้อทุกครั้ง มาดูกันทีละส่วนเลยครับ?


การออกแบบและวัสดุของตัวเครื่อง
เริ่ม ตั้งแต่เรื่องของหน้าตากันก่อน บอกได้เลยว่าต้องเลือกเองครับ อยากได้หน้าตาของเครื่องแบบไหนก็เลือกกันไป วัสดุที่ใช้ก็สำคัญเช่นกัน ถ้าเครื่องเล่นที่ราคาแพงๆ อาจจะใช้วัสดุน้ำหนักเบาและแข็งแรงอย่าง แม็กนีเซียมอัลลอย แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เห็นจะใช้พลาสติกคุณภาพดีมาทำมากกว่า เพราะราคาไม่แพงและมีสีสันต่างๆ ที่สวยงาม ขนาดของตัวเครื่องก็สำคัญเช่นกันครับ ถ้าเป็นเครื่องเล่นเอ็มพีสามที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีความจุน้อยกว่าเครื่องเล่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์จิ๋วในการเก็บข้อมูล แบบนี้จะมีความจุในระดับกิกะไบต์ แต่ตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ตามไปด้วย และใช้พลังงานมากกว่า ดังนั้นควรพิจารณาตามความเหมาะสมครับว่า คุณต้องการเครื่องเล่นที่พกพาได้สะดวก หรือว่าเครื่องที่เน้นไปในเรื่องของความจุมากกว่ากัน?

หน่วยความจำ
เครื่อง เล่นเอ็มพีสามแบ่งหลักๆ ได้ 2 แบบครับ ก็คือ แบบที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลช และแบบที่ใช้ฮาร์ดดิสก์สำหรับเก็บข้อมูล ถ้าเป็นแบบแรกนั้นส่วนใหญ่จะมีขนาดหน่วยความจำตั้งแต่ 64 เมกะไบต์ ไปจนถึง 512 เมกะไบต์ และบางรุ่นถูกออกแบบให้สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมประเภท SD หรือ MMC ได้ในภายหลัง ซึ่งตัวเครื่องจะใหญ่กว่ารุ่นที่เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ครับ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีงบไม่มากนัก และห่วงเรื่องความจุของตัวเครื่อง?
ส่วนแบบที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ สำหรับเก็บข้อมูลนั้นจะมีความจุในระดับกิกะไบต์ ในบ้านเราที่มีขายกันก็มีรุ่น 4,10,20 และ 30 กิกะไบต์ ซึ่งเพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ครับ เพราะมีอยู่เยอะแล้ว ราคาแต่ละเครื่องก็อยู่ในหลักหมื่น แต่ว่าจะมีข้อดีตรงที่คุณสามารถนำไปใช้เก็บข้อมูลอื่นๆ ได้ด้วย นอกจากที่จะใช้เก็บเพลงอย่างเดียว ในการพิจารณาส่วนนี้ ถ้าถามถึงความคุ้มค่า รุ่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูลเมื่อคิดออกมาเทียบราคาต่อความจุแล้ว คุ้มค่ากว่ามาก แต่ว่าเราต้องเสียเงินจำนวนมากๆ ในครั้งแรก ส่วนถ้าเป็นพวกที่ใช้หน่วยความจำแฟลชถึงแม้ว่าเทียบราคาต่อความจุแล้วจะดู ค่อนข้างแพง แต่ถ้ามองเรื่องของราคาเครื่องแล้วก็นับว่าถูกแสนถูกครับมีให้เลือกตั้งแต่ ระดับพันกว่าบาท ไปจนถึงเกือบๆ หมื่นบาท ตรงนี้คงต้องบอกว่าเลือกตามงบประมาณที่มีไว้จะดีที่สุดครับ เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วใช้ไปสักพักค่อยซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ความสามารถเยอะกว่าเดิมก็ได้?

การฟังเพลงเอ็มพีสาม
ฟังก์ชัน หลักของเครื่อง ซึ่งแต่ละเครื่องจะใช้งานในการเล่นเอ็มพีสามคล้ายๆ กันครับ โดยต้องมีการโอนข้อมูลจากโน้ตบุ๊กหรือพีซีเข้าสู่เครื่องเอ็มพีสามกันเสีย ก่อน จากนั้นผู้ใช้ก็เพียงแค่กดปุ่ม play เท่านั้นเอง แต่ว่าการเล่นนั้นจะมีโหมดการเล่นมาให้ด้วย เช่น โหมดการเล่นซ้ำ โหมดการเล่นแบบสุ่ม เป็นต้น รวมไปถึงการหยุดเพลง การเลือกเพลงตามโฟลเดอร์ หรือว่าความสามารถในการลบเพลงจากตัวเครื่อง รุ่นใหม่ๆ เขามีฟังก์ชันในการแสดงเนื้อเพลงด้วย แต่เท่าที่ผมได้ลองดูกับเครื่องจอเล็กๆ ไม่เหมาะครับ เพราะพื้นที่ค่อนข้างน้อย ดูก็ลำบาก ตัวหนังสือเลื่อนก็ไม่ค่อยตรงกับเพลวงเท่าไหร่ ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษาดู และลองใช้ดูก่อนครับว่า เครื่องรุ่นนั้นๆ มีลูกเล่นอะไรมาให้บ้าง และเราใช้งานได้ถนัดแค่ไหนกัน?

การฟังวิทยุ
เป็น อีกฟังก์ชันหนึ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับเครื่องที่มีความจุไม่มากนัก เพราะฟังเพลงในเครื่องจนเบื่อแล้วจะได้สามารถเปิดวิทยุฟังได้ด้วย สำหรับฟังก์ชันนี้เครื่องรุ่นเล็กๆ ราคาประหยัดบางรุ่นจะไม่มีครับ ดังนั้นควรดูจากสเปกให้ดีด้วยเพราะไม่ได้มีมาให้ทุกเครื่อง ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่เราจะต้องพิจารณาในเรื่องของการปรับเลือกสถานี การสแกนหาคลื่นวิทยุว่าทำได้รวดเร็วแค่ไหน ความคมชัดของสัญญาณ และเรื่องของจำนวนสถานีที่สามารถบันทึกเอาไว้ในหน่วยความจำได้ เครื่องบางรุ่นมีความสามารถในการบันทึกเสียงของวิทยุเก็บไว้ฟังได้อีกด้วย ครับ การพิจารณาก็ดูฟังก์ชันหลักๆ ที่ควรมีตามที่ผมได้บอกไปแล้ว ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ เช่น แสดงชื่อสถานีวิทยุที่เราบันทึกเอาไว้ ก็เป็นส่วนเสริมอีกอย่างหนึ่งที่มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร?

การเก็บข้อมูล
อีก ความสามารถหนึ่งที่คนใช้เครื่องเล่นเอ็มพีสาม มักจะไม่ค่อยนำมาใช้กัน เพราะเข้าใจว่าเครื่องเล่นเอ็มพีสามเอาไว้ฟังเพียงแค่อย่างเดียว จริงๆ แล้วเมื่อเราเชื่อมต่อเครื่องเล่นเอ็มพีสามเข้ากับพีซี เครื่องพีซีจะมองเห็นตัวเครื่องเล่นเป็นไดรฟ์ตัวหนึ่งแบบ Removable Drive เราสามารถโยนไฟล์งานต่างๆ เข้าไปเก็บไว้ได้ หรือจะสร้างโฟลเดอร์ต่างๆ ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งเครื่องเล่นที่มีความจุน้อยๆ คงไม่เหมาะมากนัก เพราะแค่ลำพังพื้นที่สำหรับเก็บเพลงต่างๆ ก็จะไม่พอแล้วหล่ะครับ ดังนั้นอาจจะเหมาะกับเครื่องเล่นความจุสูงๆ เสียมากกว่า?

การบันทึกเสียง
ใน เรื่องของการบันทึกเสียงนี้ ก็แบ่งเป็นได้หลายๆ ส่วนครับ เริ่มจากการบันทึกเสียงจากไมโครโฟน บางรุ่นมีไมโครโฟนอยู่ที่ตัวเครื่องเลย บางรุ่นก็มีช่องสำหรับเสียบไมโครโฟนเสริมมาให้ด้วย ซึ่งแบบที่มีช่องเสียงไมโครโฟนมาให้ดี จะได้รับความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเอาเครื่องไปใกล้กับแหล่งเสียงที่เราจะบันทึก เอาไปแต่หัวไมโครโฟนก็เพียงพอแล้ว แต่อาจจะไม่สะดวกนักเพราะคุณจะต้องพกไมโครโฟนติดตัวไปด้วยอีก 1 อย่าง เรื่องของคุณภาพเสียงในการบันทึกก็สำคัญเช่นกันครับ เครื่องบางรุ่นปรับได้ บางรุ่นปรับไม่ได้ แน่นอนว่าเครื่องที่ปรับได้ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เพราะเราสามารถเลือกได้ว่าเสียงไหนเราต้องการบันทึกให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี กว่า หรือว่าเสียงไหนต้องการที่แย่กว่า เพราะว่ายิ่งเสียงดีเท่าไหร่ เราก็ต้องเสียพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากตามไปเท่านั้น ส่วนใหญ่เครื่องที่ความจุประมาณ 128 เมกะไบต์ก็จะบันทึกเสียงในคุณภาพกลางๆ ได้ราว 4 ? 8 ชั่วโมงอยู่แล้วครับ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันแล้ว?
ต่อ ไปเป็นการบันทึกเสียงจากวิทยุ มีในบางรุ่นเช่นกันครับ ฟังก์ชันนี้มีไว้ก็ดี ไม่มีก็คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะเราคงไม่มานั่งบันทึกเสียงจากวิทยุเก็บไว้ฟังสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณอยากจะบันทึกข่าวสาร หรือว่าเพลงใหม่ๆ ที่ยังไม่มีจำหน่าย ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับที่ควรจะมีฟังก์ชันนี้เอาไว้?
สุดท้าย เป็นการบันทึกเสียงจากแหล่งภายนอกผ่านช่อง Line-in มีในบางรุ่นเช่นกันครับ มีประโยชน์เมื่อต้องการบันทึกเสียงจากเครื่องเล่นตัวอื่นๆ แล้วเก็บเป็นไฟล์ mp3 เพราะตัวเครื่องจะแปลงฟอร์แมตให้แบบอัตโนมัติครับ การพิจารณาส่วนนี้หลักๆ ก็น่าจะบันทึกเสียงผ่านไมโครโฟนได้ครับ ส่วนเสริมอื่นๆ จะมีหรือไม่มีคงต้องดูตามความต้องการของตัวคุณเอง?

การเชื่อมต่อ
ใน ส่วนของการเชื่อมต่อคงต้องดูเรื่องของมาตรฐานการเชื่อมต่อครับ ปัจจุบันเป็นแบบ USB กันทั้งหมดแล้ว ซึ่งต้องพิจารณากันต่ออีกว่าเป็น USB เวอร์ชันอะไร ปัจจุบันเท่าที่ผมสำรวจในตลาดจะเป็น USB 2.0 ซะส่วนใหญ่ แต่อาจจะมีแบบ USB 1.1 หลงเหลืออยู่บ้าง ความแตกต่างของสองเวอร์ชันนี้ก็คือ เรื่องของความเร็วครับ USB 1.1 มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่ 12 เมกะบิตต่อวินาที ส่วน USB 2.0 มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่ 480 เมกะบิตต่อวินาที ตามสเปกแล้วจะเร็วกว่าถึง 40 เท่าครับ เวลาเราโอนเพลงจากโน้ตบุ๊กหรือพีซีเข้าสู่ตัวเครื่องเล่นถ้าเป็น USB 2.0 จะถ่ายโอนได้รวดเร็วมาก ซึ่งเครื่องบางรุ่นจะมีหัวเชื่อมต่อ USB ติดอยู่กับตัวเครื่องเลย บางรุ่นต้องใช้สายเชื่อมต่อตางหาก อย่าลืมดูก่อนเอาไว้ด้วย ดังนั้นเวลาเลือกซื้อควรตรวจสอบดูจากสเปกด้วยว่าใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 แล้วหรือยัง ถ้าใช้ USB1.1 อยู่ไม่ควรซื้อมาใช้งานแล้วครับ?

ซอฟต์แวร์ที่มีมาให้
เครื่อง เล่น Mp3 ราคาแพงส่วนใหญ่จะมีซอฟต์แวร์แถมมาให้ด้วยครับ โดยเฉพาะเครื่องเล่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูลมักจะมีมาให้แทบทุก ยี่ห้อ แต่ถ้าเป็นเครื่องเล่นราคาประหยัดจะมีเพียงไดรเวอร์สำหรับวินโดวส์รุ่นเก่าๆ เท่านั้นครับ ซอฟต์แวร์ที่แถมมาให้นี้ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์สำหรับจัดการพวกไฟล์ MP3 ต่างในเครื่อง เช่น การโอนถ่ายเพลงไปยังเครื่องเล่น การซิงก์เพลงให้ตรงกับเครื่องพีซี หรือว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลงฟอร์แมตของเพลง เช่น แปลงจากออดิโอซีดีมาเป็นไฟล์ MP3 บางโปรแกรมมีความสามารถในการดึงเพลงจากแผ่นวีซีดีมาเป็น Mp3 อีกด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อการตัดต่อ และใส่เอฟเฟกต์ให้กับเพลง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจครับ แต่ถ้าเป็นการใช้งานพื้นฐานทั่วๆ ไปแล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นมากนัก?

ระบบการแสดงผล
การ แสดงผลที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ เรื่องของการแสดงชื่อเพลง หรือว่าการแสดงรายละเอียดต่างๆ บนหน้าจอ เริ่มจากการแสดงผลในภาษาต่างๆ ก่อน ตอนนี้มีเครื่องเล่นเพียงไม่กี่รุ่นครับที่สามารถแสดงภาษาไทยได้ และบางรุ่นแสดงภาษาไทยได้บางคำเท่านั้นก็มีขายเช่นกัน ส่วนใหญ่ที่ไม่มีปัญหาเลยก็คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเขาจะใส่มาให้ในเครื่องเลยครับ แสดงผลได้อย่างถูกต้อง ที่ว่าภาษาไทยแสดงแล้วมีปัญหาบ้าง เพราะบางทีสระที่แสดงมันไม่ค่อยเข้าที่เท่าไหร่ อาจจะเห็นว่าอยู่บรรทัดเดียวกับตัวอักษรเลย แต่ก็พออ่านออกครับ ดีกว่าไม่เห็นเลย ทางแก้ไขก็มีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ แบบแรกจัดการเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาอังกฤษเสียก่อน อีกแบบก็คือ ไปอัพเกรดเฟริม์แวร์ที่ผู้ผลิตเขาปรับปรุงให้แสดงภาษาไทยได้แทน แต่หาได้น้อยมากครับ แทบจะไม่มีให้เห็นเลย ผมว่าถ้าเครื่องไหนที่แสดงภาษาไทยได้ ราคาไม่แพง ฟังก์ชันค่อนข้างดี น่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นึกถึงหลักความจริงที่ว่า ถ้าคุณจะเอาเพลงไปใส่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามสัก 100 ไฟล์คงไม่มานั่งเปลี่ยนชื่อเพลงให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดหรอกครับ เวลาฟังก็เดาชื่อเพลงกันไป ในอนาคตคงได้เห็นเครื่องเล่นที่สนับสนุนภาษาไทยออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้นตาม กระแสความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน?

การอัพเกรดเฟิร์มแวร์
ก่อน อื่นคงต้องบอกก่อนครับว่า เฟิร์มแวร์คืออะไร อธิบายได้ง่ายๆ ว่าเป็นซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งครับที่คอยควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ซึ่งผู้ผลิตเขาออกแบบมาให้เราสามารถอัพเกรดได้ เผื่อว่าตัวซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่ามีปัญหาบางจุดจะได้ออกเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน ใหม่มาแก้ไขได้ ส่วนใหญ่เมื่ออัพเกรดแล้ว ตัวเครื่องจะสนับสนุนฟอร์แมตของเพลงใหม่ๆ หรือว่าสนับสนุนภาษาต่างๆ ที่ใช้ในการแสดงผลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นข้อดีค่อนข้างสำคัญครับ เพราะว่าการที่สามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้นั้น ก็หมายถึงในอนาคตหากมีฟอร์แมตเพลงใหม่ๆ ออกมา ตัวเครื่องก็สามารถเล่นได้เช่นกัน วิธีการตรวจสอบนั้นดูจากสเปกเครื่องก่อนครับว่าสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้ หรือไม่ แล้วควรตามเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ผลิตก่อนด้วยว่า มีการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ใหม่ๆ ในรุ่นที่เราต้องการซื้อบ้างหรือไม่ เพราะบางเครื่องบอกเอาไว้ว่าอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้ก็จริงๆ แต่ซื้อมาใช้นานเป็นปีก็ไม่เห็นมีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันใหม่ๆ มาให้อัพเดตกันบ้างเลย ฝากไว้พิจารณาในส่วนนี้ด้วยครับ?

แบตเตอรี่
คุณ จะฟังเพลงได้นานเท่าไหร่ ก็อยู่ที่แบตเตอรี่นี่แหละครับ มีด้วยกัน 2 แบบก็คือ แบตเตอรี่แบบลิเทียมไออนที่อยู่ในตัวเครื่องแล้วสามารถชาร์จไฟใหม่ได้ เครื่องประเภทนี้จะมีราคาสูง แต่ก็ดีตรงที่สามารถใช้งานได้นาน อีกแบบหนึ่งก็คือ แบบที่ใช่ถ่านขนาดต่างๆ ซึ่งแน่นอนครับมีราคาถูกกว่า และสามารถหาซื้อแบตเตอรี่มาเปลี่ยนได้ง่าย แถมยังเลือกแบบที่ชาร์จได้มาใช้งานได้อีกด้วย ถ้าคุณฟังเพลงไม่บ่อยหนัก และงบประมาณไม่มาก คงต้อเลือกแบบที่ใช้ถ่านขนาดต่างๆ แทน แต่ถ้างบมากอยากพกไปฟังนานๆ ก็เรื่องแบบที่ใช้แบตเตอรี่ภายในอย่างลิเทียมไอออนก็แล้วกัน?

การรับประกัน
การ รับประกันถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อสินค้าไอทีครับ โดยเฉพาะเครื่องเล่นเอ็มพีสาม เหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ เราคงไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ด้วยตัวเอง คงต้องส่งเข้าศูนย์บริการอย่างเดียวครับ โดยทั่วๆ ไปเครื่องเล่นเอ็มพีสามจะรับประกันที่ 1 ปีครับ หากเกิดอาการผิดปกติที่เกิดจากตัวเครื่อเอง แต่ถ้าเกิดไปหล่นน้ำ หรือว่าตกพื้นแบบนี้คงไม่รับประกันอย่างแน่นอน และควรดูเงื่อนไขการรับประกันด้วยครับ ถ้าขี้เกียงอ่านก็ถามคนขายคร่าวๆ ดูครับว่า มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการดูเรื่องของศูนย์บริการด้วยว่ามีเพียงพอหรือไม่ คุณเดินทางไปสะดวกแค่ไหน ระยะเวลาการซ่อมเป็นอย่างไร มีนโยบายในการเปลี่ยนสินค้าหรือไม่?
สุดท้ายคงต้องบอกว่า เครื่องเล่นเอ็มพีสาม ก่อนซื้อทุกครั้งควรไปลองเล่น ฟังเสียงก่อนครับ เพราะแค่เสียงเราก็ชอบไม่เหมือนกันแล้ว เครื่องแต่ละรุ่นก็ให้เสียงที่ไม่เหมือนกันอีก นี่ยังไม่รวมถึงความยากง่ายในการใช้งานนะครับ จำไว้ว่า เครื่องเล่นเอ็มพีสาม ไม่ได้ลองใช้ อย่าซื้อ! ถ้าจะซื้อ ต้องลองใช้ก่อนนะครับ?


ที่มา : commart.co.th?

Philips เชื่อมต่อกับเสียงเพลงและสายเรียกเข้าของคุณ





เชื่อมต่อกับเสียงเพลงและสายเรียกเข้าของคุณ

เครื่องเล่น MP3 พร้อมชุดหูฟัง Bluetooth®

คลิปและคลิกเพื่อการรับฟังและการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง! เครื่องเล่นเพลงและวิดีโอ LUXE มีสไตล์จาก Philips GoGear ใช้คาดเป็นเครื่องประดับ และให้คุณเปลี่ยนจากเพลงเป็นฟังสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือในระบบ Bluetooth รวมทั้งแสดงข้อมูลผู้โทรเข้า เพียงหนึ่งสัมผัส

ลากและวางเพลงและข้อมูล โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์

คุณสามารถคัดลอกคอลเลคชันเพลงจากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่อง เล่น GoGear ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงเชื่อมต่อ GoGear เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้ Windows® Explorer ให้เลือกเพลงหรือโฟลเดอร์ที่คุณต้องการคัดลอกไปยังเครื่องเล่นของคุณ แล้วลากไฟล์ที่เลือกไปยังโฟลเดอร์เพลงของ GoGear ทำได้ง่ายมากและไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมอีก!


เล็กและมีสไตล์ - เหมือนเครื่องประดับที่ทันสมัย

การออกแบบอย่างมีสไตล์ของ GoGear LUXE พร้อมด้วยคลิปในตัว ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ดุจเป็นเครื่องประดับแฟชั่น ไม่ว่าจะคลิปไว้กับกระเป๋าถือหรือเสื้อผ้าของคุณ ไม่ต้องคอยควานหาเครื่องเล่น MP3 ในกระเป๋าถือของคุณอีกต่อไป คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงดิจิตอลขณะเดินทาง พร้อมพกพาความทันสมัยและมีสไตล์แฟชั่นไปด้วย

10 มือถือทัชสกรีนโฟนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ในปี 2009

Posted by MasterM on วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553 , under | ความคิดเห็น (0)



ตลอดปี 2009 ที่ผ่านมา กระแสโทรศัพท์มือถือในรูปแบบหน้าจอสัมผัส หรือ ทัชสกรีนโฟน ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย แต่ดูดี มีพื้นที่จอแสดงผลกว้างกว่าโทรศัพท์มือถือทั่วไป เหมาะสำหรับใช้งานด้านความบันเทิง และอินเตอร์เน็ต เกิดเป็นกระแสแฟชั่นโฟนขึ้นมาใหม่ จนค่ายมือถือต่างๆ ต้องผลิตมือถือหน้าจอสัมผัสออกมาแข่งขันกันหลายรุ่น และก่อนที่ปี 2009 จะผ่านพ้นไป เราได้เลือกโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสออกมา 10 รุ่น ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในปี 2009 (ไม่มีการจัดอันดับ)

Nokia 5800 Xpress Music

Nokia 5800 Xpress Music

เริ่มต้นปี 2009 ด้วยโทรศัพท์มือถือ Nokia 5800 Xpress Music ในราคาที่เปิดตัวเพียง 1 หมื่นต้นๆ เทียบกับคุณสมบัติแล้วถือว่าเป็นรุ่นสุดคุ้มของโนเกียเลยก็ว่าได้ จึงทำให้มียอดจำหน่ายสูง และถูกพูดถึงกันมาก ขนาดเว็บบอร์ดแสดงความคิดเห็นรุ่นนี้ในเว็บไซต์สยามโฟนฯ ต้องแบ่งออกถึง 5 ภาค นอกจากจะเข้ามาคุยกันถึงการใช้งานแล้ว ยังมาพูดถึงเรื่องวัสดุการประกอบ ที่มีข้อบกพร่องจนถูกตั้งฉายาว่า "น้องอ้า" อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นข้อเสียเท่าไรนักเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นและความ สวยงามที่โดนใจใครหลายคน

Sony Ericsson Satio

Sony Ericsson Satio

Sony Ericsson Satio มาพร้อมจุดเด่นที่กล้องถ่ายรูป ความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซล จึงเป็นรุ่นที่หลายคนเฝ้าจับจองเป็นเจ้าของ นอกจากความชัดเจนเรื่องกล้อง ด้านพลังเสียงก็ทำได้ดี พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของระบบปฏิบัติการ Symbian ส่งผล Sony Ericsson Satio เป็นโทรศัพท์มือถือในฝันของใครหลายคน

Samsung star

Samsung star

ขณะที่ทัชสกรีนโฟนของค่ายอื่นตั้งราคาขายกันเป็นหลักหมื่น แต่ซัมซุงกลับผลิตทัชสกรีนโฟนรุ่นประหยัดออกมาในราคาเปิดตัวที่ถูกกว่าคู่ แข่ง ทำให้ซัมซุง สตาร์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถึงจะไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่ก็มีคุณสมบัติความบันเทิงครบครัน ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ จนต้องผลิตมือถือในตระกูลสตาร์ตามออกมาอีก 2 รุ่น คือ Star Wi-Fi กับ Star TV ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ลูกค้าหลายคนที่ซื้อรุ่นแรกไปมีอาการโกรธเคืองกันเล็กน้อย ถ้าหากรวมเอา Wi-Fi กับ TV ไว้ในเครื่องเดียวกัน สตาร์ คงจะเป็นสุดยอดทัชสกรีนโฟนในปี 2009 เลยก็ว่าได้

HTC Hero

HTC Hero

ถ้าต้องการอะไรที่ใหม่ๆ HTC Hero เป็นคำตอบให้คุณได้ ด้วยระบบปฏิบัติการน้องใหม่ล่าสุดที่เรียกกันว่า Android รองรับแอปพลิเคชั่นจากกูเกิ้ลอย่างเต็มที่ สำหรับลูกค้าที่เน้นใช้งานด้านออนไลน์ นอกจากนี้ HTC Hero ยังได้รับรางวัล Gadget Awards 2009 จากนิตยสาร T3 ในประเทศอังกฤษ ให้คะแนนโดยผู้อ่านนิตยสารมากกว่า 135,000 คน

HTC HD2

HTC HD2

เอชทีซีส่งท้ายปี 2009 ด้วย HTC HD2 วินโดวส์โฟน ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.5 ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon™ แรง 1 GHz มีจุดเด่นที่จอแสดงผลขนาดกว้าง 4.3 นิ้ว รองรับการขูดขีด สัมผัสสั่งการแม่นยำด้วย จอแสดงผลแบบ Capacitive คุณสมบัติครบครันตามมาตรฐาน Windows Mobile เสริมด้วย HTC SENSE รูปแบบการใช้งานบนหน้าจอหลัก เพิ่มความสวยงามให้ HTC HD2 ดูดีเหนือคู่แข่ง

LG BL40 Chocolate

LG BL40 Chocolate

นี่คือแฟชั่นโฟนอย่างแท้จริง LG BL40 โทรศัพท์มือถือในตระกูล Chocolate Black Label Series รุ่นที่ 4 โดดเด่นด้วยจอแสดงผล ขนาดกว้างพิเศษแบบพาโนราม่า ทำให้ตัวเครื่องดูยาวไปด้วย อดเทียบไม่ได้กับรีโมทคอนโทรล แต่ถ้าสัมผัสเข้าไปในคุณสมบัติ จะพบว่า LG BL40 เป็นแฟชั่นโฟนที่มีคุณสมบัติครบครัน ไม่ได้สวยงามเพียงอย่างเดียว

BlackBerry Storm

BlackBerry Storm

ทัชสกรีนโฟนรุ่นแรกของค่ายแบล็คเบอร์รี่ เข้ามาวางจำหน่ายในไทยช่วงกลางปี ในราคาเปิดตัวเกือบ 3 หมื่นบาท ทำให้ถูกพูดถึงในแง่ลบมากกว่าเรื่องฟังก์ชั่น ถ้าใครมองข้ามเรื่องราคาค่าตัว จะสัมผัสได้ถึงความฉลาดที่แบล็คเบอร์รี่ทำไว้ให้ โดยเน้นไปที่การสัมผัสหน้าจออย่างแม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี SurePress™ แต่ก็ยังมีข้อกังขาว่าจอแสดงผลจะทนได้นานแค่ไหน เพราะดูเหมือนแผงหน้าจอจะหลุดออกมาทุกครั้งที่กด

i-mobile TV 658

i-mobile TV 658

มองผ่านๆ แล้วอาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร แต่ถ้าได้ใช้งานจะพบว่าไอโมบายก็มีดีเหมือนกัน กับกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ในราคาเปิดตัวไม่กี่พัน ทำให้ลืมมือถือจากแดนมังกรไปได้เลย ใครเป็นสาวกยี่ห้อนี้คงทราบกันดีว่าว่าทางไอโมบายพยายามมอบสิ่งที่ดีให้กับ ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติที่ครบครัน และบริการเสริมจาก i-Link จะพูดว่าเป็นมือถือของคนไทยเพื่อคนไทยก็คงไม่ผิด

WellcoM W9229 Tuxedo

WellcoM W9229 Tuxedo

ลงทุนไปกับโฆษณาอลังการ เปิดตัวเหมือนกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด สมกับการดีไซน์ที่สวยงามไม่แพ้ใคร ฟังก์ชั่นครบครันคุ้มค่า ในราคาไม่แพง เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้ WellcoM Tuxedo ถูกถามถึงกันอย่างมาก สมกับเป็นขวัญใจชาวภูธร

iPhone 3GS

iPhone 3GS

จะเรียกว่าเป็นต้นแบบของมือถือทัชสกรีนก็ว่าได้ ถึงแม้ก่อนหน้านั้นจะมีมือถือจอสัมผัสใช้งานมาหลายปี แต่ไอโฟนถือว่าทำได้ดีกว่าใคร จากที่เคยใช้ปากกาจิ้มหน้าจอก็ลืมไปได้เลย เพราะเพียงใช้ปลายนิ้ว ก็ให้ความแม่นยำเกินพอ อีกทั้งยังรองรับ Multi-Touch สามารถสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งการได้ 2 จุด สะดวกในการดูรูปภาพ ชมเว็บไซต์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไอโฟน คือผู้สร้างกระแสทัชโฟนอย่างแท้จริง ดูได้จากโทรศัพท์มือถือเฮ้าส์แบรนด์หลายค่ายต่างก็ถอดแบบไอโฟนมาเหมือนกัน อย่างกับฝาแฝด

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01373.html

Xphone สุดยอดคอนเซ็ปต์โฟนแห่งอนาคต

Posted by MasterM on , under | ความคิดเห็น (0)



โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการ อย่างต่อเนื่องมานับแต่อดีตตั้งแต่โทรออกรับสายได้อย่างเดียว ก็พัฒนาเพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่างๆ ทั้งเครื่องเล่นภาพ/เพลง/วิดีโอ, การใช้งานออแกไนเซอร์, ระบบนำทาง GPS หรือ การเชื่อมต่อ Social Network อย่างในปัจจุปัน แต่ค่ายโทรศัพท์ต่างๆคงจะไม่พอใจอยู่แค่นี้และจะพัฒนามือถือที่มีฟังก์ชั่น ยอดเยี่อมตัวอื่นๆในอนาคต


Xphone สุดยอดมือถือที่ใส่สุดยอดนวัตกรรมต่างๆมากมายทั้ง กล้องดิจิตอลทีมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ optical และฐานกล้องที่ล็อกเลนส์ สามารถเปลี่ยนใส่เลนส์กล้องได้หลากหลายรุ่น เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วมีฟังก์ชั่นปริ้นภาพจากเครื่องโดยตรงโดยไม่ต้องเชื่อม ต่อกับคอมพิวเตอร์, การรองรับหน่วยความจำภายนอกก็สามารถรองรับได้หลายแบบทั้ง การ์ด SD แผ่น CD, DVD, Floppy disk, เทป cassette และ เทป VHS หน้าจอแสดงผลรูปแบบสัมผัส สามารถสร้างความร้อนเพื่อต้มน้ำ, เมื่อ SMS เข้าสามารถดูผ่านฟังก์ชั่น SMS2Toadt ที่แสดง SMS แผ่นขนมปังปิงที่ย่างพร้อมรับประทาน แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างไม่จำกัดเพราะใช่พลังงานนิวเคลียร์แถมยังสามารถ ประจุไฟใส่แบตเตอรี่รถยนต์ได้

ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01404.html