Logo

เป็นกระแสที่กระกำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีข่าวแพร่ออกมาถึงอาการ จำดำมรณะ หรือ Black Screen of Death ที่เกิดขึ้นกับ Windows 7 ทำให้คอมพิวเตอร์มีอาการคล้ายๆกับการถูกปิดตาย (Lock Up) และมีหน้าจอดำสนิท โดยอาการที่เกิดขึ้นดังกล่าว มีการยืนยันว่าเกิดมาจากการอัพเดตแพตซ์เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายนทีผ่านมา โดยล่าสุดทางบริษัท ไมโครซอฟท์ได้รับแจ้งปัญหา Black Screen of Death ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการยอมรับหรือออกมาปฏิเสธแต่อย่างใด และยังบอกแต่เพียงว่า ทางบริษัทกำลังเร่งตรวจสอบว่าการอัพเดตแพต์ซ์ดังกล่าวทำให้เกิดปัญหากับ ลูกค้าจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ทางบริษัทจะรีบออกมาชี้แจงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีป้องกันต่างๆ รวมไปถึงการชี้แจงต้นตอสาเหตุหลักของปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ทราบในทันที

ในเบื้องต้นมีผู้ใช่รายหนึ่งได้ออกมาสรุปสาเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับ คอมพิวเตอร์ของเขาว่าเกิดมาจากการอัพเดตแพตซ์ตัวล่าสุด โดยแพทซ์ตัวนี้จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงการทำงานของ Access Control List (ACL) ซึ่งเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการล็อกออนเข้าสู่ระบบปฏิบัติการของผู้ใช้ และแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆของเครื่อง โดยการแก้ไขในส่วนของรีจิสทรี (Registry) ที่ผิดพลาด ส่งผลให้เกิดปัญหาและอาการ Black Screen of Death ได้ในที่สุด ซึ่งหน้ที่หลักๆของแพตซ์ตัวนี้มีหน้าที่ปรับรุงระบบรักษาความปลอดภัยของ วินโดวส์ให้ดีขึ้น แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้มีปัญหา จนทำให้การทำงานของระบบดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้

หลังจากนั้น Prevx ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยได้ตั้งข้อสังเกตุ ต่างๆไว้ในบล็อกว่า "หลังจากอัพเดตแพตช์ดังกล่าว และรีสตาร์ท Windows 7, Vista, XP, NT, W2K, W2K3 หรือ W2K8 บนเครื่องพีซี หรือเครื่องเซิร์ฟเว่อร์ ระบบจะสามารถทำงานได้ปกติดี จนกระทั่งเข้ามาสู่ขั้นตอนการล็อกออนเข้าระบบ ปรากฎว่า มันไม่แสดงหน้าต่างเดสก์ทอป ทาสก์บาร์ ซิสเต็มเทรย์ หรือไซด์บาร์ให้เห็นแต่อย่างใด คงมีเพียงแค่หน้าจอดำสนิท กับหน้าต่าง Windows Explorer ค้างอยู่เท่านั้น ซึ่งบบางครั้งก็ถูกย่อขนาดให้เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำไป" ในขณะที่ไมโครซอฟท์ยังไม่ข้อสรุปของปัญหาที่เกิดขึ้น ทาง Prevx ก็ได้ออกซอฟต์แวร์แก้ไขปัญหาที่จะช่วยเข้าไปแก้ไขรีจิสทรีที่เสียหายให้กลับ มาทำงานได้เป็นปกติเหมือนเดิม (สามารถเข้าไปแก้ไขโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ก็ได้) และ ยังทำงานสอดคล้องกับข้อกำหนดของ ACL อีกด้วย

บริษัทไมโครซอฟได้ออกมาปฏิเสธอย่างทันควันว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้จำนวนไม่มากนัก และทางบริษัทไม่พบหลักฐานที่จะระบุได้ว่า การอัพเดตแพทซ์รักษาความปลอดภัยชุดล่าสุดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ระบบปฏิบัติ การรุ่นใหม่อย่าง Windows 7 เกิดปัญหา Black Screen of Death แต่อย่างใด แถมยังปัดข้อกล่าวหาจาก Prevx ที่ได้อ้างว่าทางไมโครซอฟท์ได้ปรับเปลียนรีจิสทรี (Registry) ของระบบปฏิบัติการซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ใช้เก็บข้อกำหนดของการทำงาน (Configuration Setting) จนกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว โดย Christopher Budd ตัวแทนบริษัทไมโครซอฟท์ ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ไว้ว่า "ทางบริษัทพบว่า คำอ้างจากรายงานที่มีการเผยแพร่ออกมาเหล่านั้นไม่ถูกต้อง และจากการตรวจสอบระบบการทำงานอย่างละเอียดยังพบอีกด้วยว่า แพทซ์อัพเดตที่ออกมาล่าสุดนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติที่กล่าวอ้างในรายงานแต่อย่างใด" ทั้ง Budd ยังกล่าวอีกว่า ทีมซัพพอร์ตของไมโครซอฟท์ไม่พบการรายงานปัญหานี้จากผู้ใช้สักเท่าไร ดังนั้น ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จนเกินไป อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของไมโครซอฟท์่สามารถติดต่อกับแผนกซัพพอร์ตเพื่อขอความช่วยเหลิอต่างๆ ที่เกิดจากปัญหาดังกล่าวได้ฟรีอีกด้วย